Home » 10 ปีแห่งความสำเร็จ ของกรมกิจการเด็กและเยาวชน และแคร์ ฟอร์ ชิลเดรน 

10 ปีแห่งความสำเร็จ ของกรมกิจการเด็กและเยาวชน และแคร์ ฟอร์ ชิลเดรน 

by rttwp01
6,985 views

(จากซ้ายไปขวา) นางจันทร์เพ็ญภิรมย์ลาภาครอบครัวอุปถัมภ์ , นางอภิญญาชมภูมาศอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน , นายอนุกูลปีดแก้วปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ , นายนิรันทร์ภิรมย์ลาภาครอบครัวอุปถัมภ์ , น.ส.อรนุชามงคลรัตนชาติผู้อำนวยการกองส่งเสริมการพัฒนาและสวัสดิการเด็กเยาวชนและครอบครัว

กรมกิจการเด็กและเยาวชน ภายใต้สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประกาศความสำเร็จจากความร่วมมือกับ แคร์ ฟอร์ ชิลเดรน (Care for Children) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรด้านสวัสดิการและการพัฒนาเด็กจากประเทศอังกฤษ เพื่อประชาสัมพันธ์และกระตุ้นให้เกิดระบบอุปถัมภ์เด็กอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้นในประเทศไทย 

พันธกิจของกรมกิจการเด็กและเยาวชนคือการสนับสนุนและเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีรอบด้าน ความปลอดภัย และความมั่นคงทางสังคมแก่เด็กและเยาวชนในประเทศไทย รวมทั้งให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนที่จำเป็นแก่เด็กและครอบครัวที่ต้องการความช่วยเหลือ และตั้งแต่ปีพ.ศ. 2555 เป็นต้นมากรมกิจการเด็กและเยาวชนได้ร่วมงานกับ แคร์ ฟอร์ ชิลเดรน เพื่อคัดเลือกพ่อแม่อุปถัมภ์ที่ยินดีมอบการดูแลทางเลือกแก่เด็กที่ต้องอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์เด็กและบ้านพักเด็กในกำกับของรัฐบาลไทย

โครงการแรกของ แคร์ ฟอร์ ชิลเดรน เริ่มต้นที่ประเทศจีนเมื่อปี พ.ศ. 2541 และขยายการดำเนินงานสู่ประเทศไทยในปี พ.ศ. 2555 เวียดนามในปี พ.ศ. 2560 และล่าสุดในกัมพูชาเมื่อปี พ.ศ. 2564 โดยมีแผนการระยะยาวในการขยายขอบข่ายครอบคลุมเด็กและครอบครัวทั่วโลก ทีมงานของ แคร์ ฟอร์ ชิลเดรน ที่ดูแลโครงการในแต่ละประเทศจะทำงานร่วมกับหน่วยงานของรัฐโดยตรง เพื่อสร้างและส่งมอบโปรแกรมฝึกอบรมที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อประเทศนั้น ๆ และมุ่งเน้นให้เกิดผลอย่างทันทีในระดับแนวหน้า นั่นก็คือการนำเด็กไปสู่ครอบครัวในท้องถิ่นที่พร้อมจะมอบความรักและการดูแลที่เหมาะสม โครงการในแต่ประเทศยังแบ่งกระบวนการพัฒนาออกเป็นสี่ขั้น โดยมีเป้าหมายปลายทางคือการสร้างโครงการอุปถัมภ์ในระดับประเทศ ให้บ้านพักพิงเด็กกลายมาเป็นศูนย์กลางแหล่งทรัพยากรใหม่ที่มีพลวัตสูงของชุมชน และมีการเข้าถึงแหล่งข้อมูลและเนื้อหาการฝึกอบรมที่ออกแบบมาอย่างเฉพาะเจาะจงโดย แคร์ ฟอร์ ชิลเดรน 

ตั้งแต่เริ่มโครงการในประเทศไทยเมื่อสิบปีที่แล้ว แคร์ ฟอร์ ชิลเดรน ได้ทำการฝึกอบรมให้กับทุกสถานสงเคราะห์และบ้านพักเด็กในกำกับของรัฐที่มีอยู่ในทุกจังหวัดของประเทศไทย มีการฝึกเจ้าหน้าที่จัดหาครอบครัวอุปถัมภ์ทั่วประเทศ เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับระบบการดูแลเด็กกำพร้าและเด็กกลุ่มเปราะบางที่อยู่ในความคุ้มครองของรัฐ โดยเป้าหมายหลักตามขั้นตอนการพัฒนาในปัจจุบันในประเทศไทยคือการสร้างการรับรู้ถึงระบบการอุปถัมภ์เด็กในวงกว้าง และเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจและมีความพร้อมสมัครเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์มากขึ้น

โรเบิร์ต โกลเวอร์ ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการบริหารของ แคร์ ฟอร์ ชิลเดรน

“จากการศึกษาวิจัยและประสบการณ์ในการดำเนินงานของเรา เรารู้ว่าเด็กจะเติบโตได้ดีกว่าในครอบครัว” โรเบิร์ต โกลเวอร์ ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการบริหารของ แคร์ ฟอร์ ชิลเดรน กล่าว “สถานสงเคราะห์ขนาดใหญ่เป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อพัฒนาการของเด็ก เจ้าหน้าที่มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตลอดเวลาทำให้ไม่สามารถมอบความอบอุ่น ความเข้าใจ และความรักแก่เด็ก ๆ ได้ดีนัก แต่ถ้าเด็กได้มีโอกาสเติบโตในครอบครัว พ่อแม่อุปถัมภ์จะสามารถให้การดูแลอย่างใกล้ชิดได้ตลอดเวลา เด็ก ๆ ต้องการพ่อแม่  และความรักจากครอบครัว” 

นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่ากระทรวงได้ตระหนักถึงความสำคัญของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กและแนวปฏิบัติของสหประชาชาติว่าด้วยการเลี้ยงดูทดแทนสำหรับเด็ก ด้วยการกำหนดแผนยุทธศาสตร์การคุ้มครองเด็ก ปี พ.ศ. 2560 – 2564 โดยคำนึงถึงการเลี้ยงดูทดแทนแก่เด็กในรูปแบบสถานรองรับเด็กตามความเหมาะสม จำเป็น และเอื้ออำนวยต่อพัฒนาการของเด็ก อีกทั้งพัฒนาระบบการดำเนินงานของครอบครัวอุปถัมภ์ เป็นการสร้างทางเลือกที่ดีสำหรับเด็ก โดยส่งเสริมให้ชุมชนท้องถิ่นและภาคเอกชน มีส่วนร่วมในการคุ้มครองและจัดสวัสดิการแก่เด็ก และเปลี่ยนบทบาทสถานรองรับเด็กให้เป็นศูนย์การเรียนรู้การจัดสวัสดิการแก่เด็กและเยาวชนในระยะต่อไป

แคร์ ฟอร์ ชิลเดรน ผลักดันให้เกิดแผนการดูแลเด็กอย่างถาวร และการอุปถัมภ์เด็กในระยะยาวสามารถมอบโอกาสในการเติบโตในสภาพแวดล้อมแบบครอบครัวที่มีความมั่นคงและความรักความอบอุ่นแก่เด็ก ในขณะที่เด็กยังอยู่ภายใต้การดูแลคุ้มครองของรัฐตามกฎหมาย และในด้านการเงินและการสนับสนุนอื่น ๆ การดูแลระยะสั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อระบบการอุปถัมภ์เด็กในประเทศไทย บ้านพักพิงและสถานสงเคราะห์ในยามฉุกเฉินอาจมอบการสนับสนุนในระดับพื้นฐานแก่เด็ก ๆ ได้ แต่ครอบครัวอุปถัมภ์สามารถเติมเต็มได้มากกว่าด้วยความรัก การอบรมสั่งสอน และการดูแลทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคมอย่างที่เด็กต้องการท่ามกลางบรรยากาศของครอบครัวที่มีความรักความอบอุ่น การอุปถัมภ์สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็ก ๆ และช่วยเตรียมพร้อมให้เด็กสามารถกลับคืนสู่การดูแลของพ่อแม่ที่แท้จริง หรือให้สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพของสังคมในอนาคต และในขณะเดียวกันก็มอบโอกาสให้พ่อแม่อุปถัมภ์ได้สร้างสิ่งดี ๆ ให้กับสังคมผ่านกระบวนการที่มีพันธะผูกพันและค่าใช้จ่ายน้อย แต่สร้างความแตกต่างได้อย่างมหาศาล 

คุณจันทร์เพ็ญ และคุณนิรันทร์ ภิรมย์ลาภา ครอบครัวอุปถัมภ์

“ในชีวิตนี้ไม่เคยรู้จักกับงานจิตอาสาเลย พอดีเพื่อนดิฉันโทรชวนไปช่วยเลี้ยงเด็กกำพร้าที่สถานรองรับแห่งหนึ่ง จึงเป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับน้องคนนี้” คุณจันทร์เพ็ญ ภิรมย์ลาภา ครอบครัวอุปถัมภ์จากสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี กล่าวในช่วงเสวนาหัวข้อ ‘ครอบครัวอุปถัมภ์ในประเทศไทย’ “ตอนแรกตั้งใจจะไปแค่ไม่กี่ครั้ง แต่พอวันไหนไม่ไปน้องก็จะร้องไห้เรียกหา ดิฉันเลยตัดสินใจไปหาเขาทุกวัน รู้เลยว่าเขาต้องการความรัก พอเขาได้ย้ายไปบ้านราชวิถี เจ้าหน้าที่ก็คุยกับดิฉันทันทีว่าสนใจจะเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ไหม ซึ่งเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับตัวดิฉันเอง แต่ที่สถานรับเลี้ยงเขามีขั้นตอนในการพิจารณาและอบรมในเบื้องต้น รวมถึงอธิบายรายละเอียดต่าง ๆ อย่างครบถ้วน พอรับทราบแล้วจึงปรึกษากับสามีและลูก ๆ จนตัดสินใจรับเขาเข้ามาอยู่ในครอบครัวด้วยกัน” 

คุณนิรันทร์ ภิรมย์ลาภา สามีคุณจันทร์เพ็ญ ได้กล่าวเสริมว่า “ยังมีเด็กอีกจำนวนมากที่ต้องเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความกลัว พวกเขาควรได้รับความรักในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด หน้าที่หลักของการเป็นครอบครัวอุปถัมภ์คือให้ความรัก ให้เขามีตัวตน และมั่นใจในตัวเอง ให้เขาได้มีโอกาสใช้ชีวิตในวัยเด็กของเขาอย่างเต็มที่ท่ามกลางความรู้สึกที่อบอุ่น และปลอดภัย”

เด็กหลายร้อยคนทั่วประเทศไทยได้รับการดูแลด้วยความรักและเอาใจใส่ในครอบครัวในท้องถิ่นแล้ว แต่ยังมีเด็กอีกหลายพันคนที่กำลังรอคอยโอกาสที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวที่มีความสุข สนใจทราบรายละเอียดในการเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ หรือสมัครเข้าร่วมโครงการ สามารถติดต่อ:

กรุงเทพมหานคร

  • สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี – โทร. 02 354 7483
  • สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ – โทร 02 286 2013
  • บ้านพักเด็กและครอบครัวทุกแห่งในกรุงเทพฯ – โทร 02 354 7580

ภูมิภาค 

  • สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด 
  • สถานรองรับเด็ก 33 แห่ง
  • บ้านพักเด็กและครอบครัว 76 แห่งทั่วประเทศ

You may also like

About Us

สื่อที่มุ่งเน้นข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ เป็นกลาง เพื่อให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ

@2022 – All Right Reserved. Designed and Developed byu00a0PenciDesign