Home » จำเริญกาลผ่านฟ้ามาสู่ดิน

จำเริญกาลผ่านฟ้ามาสู่ดิน

by rttwp01
787 views

         ตั้งแต่จำความได้ ภาพที่เห็นชินตาคือภาพพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์  เสด็จพระราชดำเนินไปทุกทั่วแคว้นบนแผ่นดินไทย  นึกย้อนไปในวันวารเหล่านั้น ภาพจำยังคงแจ่มชัดเต็มหัวใจ  ความทรงจำนำไปสู่เจ้าหญิงพระองค์เล็กพระวรกายแบบบาง แต่โดยเสด็จดำเนินไปพร้อมพระบิดาและมารดาอย่างไม่ย่อท้อในดินแดนทุรกันดาร จากวันนั้นสู่วันนี้ เจ้าหญิงพระองค์นั้นยังทรงงานเพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของประชาชน  แม้ทรงประชวรก็มิได้นำมาเป็นข้ออ้างในการปฎิบัติพระกรณียกิจแต่อย่างใด 

            ศาสตราจารย์ พลเอกหญิง พลเรือเอกหญิง พลอากาศเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ประสูติ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 เป็นพระราชธิดาพระองค์เล็กในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเป็นพระโสทรกนิษฐภคินีในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

            พระองค์สนพระทัยศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ จนได้รับการเรียกขานว่า “เจ้าฟ้านักวิทยาศาสตร์”  การขนานนามพระองค์นั้นมาจากการที่ทรงเป็นผู้มีผลงานดีเด่นของโลกในสาขาสารเคมีก่อมะเร็ง และพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม 

เจ้าฟ้านักวิทยาศาสตร์ ทรงก่อตั้งสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2530 และทรงดำรงตำแหน่งเป็นองค์ประธานของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์  จุดมุ่งหมายหลักในการก่อตั้งคือสนับสนุนงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยการสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งในด้านทุนวิจัย สนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือศึกษาวิจัยที่ทันสมัยรวมทั้งนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่มีคุณภาพ

สถาบันแห่งนี้เป็นศูนย์กลางในการศึกษาและพัฒนาบุคลากรสาขาวิทยาศาสตร์  รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับองค์กรระหว่างประเทศ นับเป็นแหล่งระดมสติปัญญาของนักวิชาการที่มีศักยภาพและวิทยาการที่ก้าวหน้าแห่งหนึ่ง

เช่นเดียวกับฝนหยาดแรกที่รินหลั่งสู่ผืนดินเอื้อประโยชน์ต่อสรรพชีวิตทั้งปวง  จากจุดเริ่มต้นการก่อกำเนิดสถาบันจุฬาภรณ์  ได้แตกหน่อต่อขยายมาเป็นโรงพยาบาลจุฬาภรณ์และราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์  ทำหน้างที่ผลิตบุคลากรทางการแพทย์และงานวิจัย รวมทั้งเยียวยารักษาโรคให้พสกนิกรของพระองค์   โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติโควิด 19 มีการนำวัคซีนหลากหลายมาให้บริการประชาชนอย่างทันต่อความต้องการในประเทศ ร่วมมือกับภาครัฐบาล จนทำให้นานาชาติยกย่องให้ไทยเป็นประเทศที่รับมือโควิด 19 ดีที่สุดประเทศหนึ่งของโลก

หลายคนมีโอกาสรับบริการจากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์  พบว่าทางโรงพยาบาลคิดค่าบริการโดยไม่เน้นการหาผลประโยชน์จากคนไข้ หากแต่เน้นการช่วยเหลือให้มากที่สุด มีการตัดค่าบริการค่าใช้จ่ายออกไปจนเหลือในราคาที่จ่ายได้ โดยทางโรงพยาบาลช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ทำให้หลายคนตื้นใจในพระเมตตาอย่างที่สุด 

 พระองค์ทรงก่อตั้งศูนย์วิจัยศึกษาและบำบัดโรคมะเร็ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งมีชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพชีวิตที่ดี   ทั้งหมดนี้ทรงทำเพื่อผลประโยชน์ของปวงชนชาวไทยทั้งมวล  สมดังพระราชดำรัส

“ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้จัดตั้งศูนย์วิจัยศึกษาและบำบัดโรคมะเร็ง เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็ง และเป็นการยกระดับการรักษาให้ได้มาตรฐานสากล ช่วยพัฒนาบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการค้นคว้าวิจัยทางด้านวิชาการ ตลอดจนเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ทัดเทียมนานาประเทศ สมดังที่ข้าพเจ้าได้ตั้งปณิธาน” 

นอกจากนี้ ยังทรงจัดตั้งศูนย์ไซโคลตรอนและเพทสแกนแห่งชาติ (Cyclotron and PET Scan) ซึ่งเป็นหน่วยงานให้บริการในการตรวจโดยสารเภสัชรังสี เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับสูงที่สามารถติดตาม ตรวจวัด ประเมิน และวิเคราะห์ การทำหน้าที่ของอวัยวะนั้นๆ ในระดับเซลล์เมตาบอลิสม์ ที่สามารถให้รายละเอียดการวินิจฉัยโรคและระยะของโรคได้ดีกว่าการตรวจอย่างอื่น ซึ่งมีประโยชน์เป็นอย่างมากในการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง โรคทางสมอง และหัวใจ

หลายคนเคยได้ยินเรื่องราวของงานประมงน้อมเกล้าฯ และมีโอกาสได้เดินดูปลาสวยงามอย่างตื่นตาตื่นใจ แต่น้อยคนจะทราบว่านี่เป็นหนึ่งในโครงการของพระองค์ 

งานประมงน้อมเกล้าฯ จัดขึ้นตามพระราชดำริให้กรมประมง ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล จัดงานดังกล่าวขึ้นที่สวนอัมพร ตั้งแต่ปี พ.ศ.2529 เพื่อน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม ที่ทรงมีต่อวงการแพทย์และการประมง เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างตึกสยามมินทร์ เนื่องในโอกาสที่โรงพยาบาลศิริราชสถาปนาครบรอบ 100 ปี หลังจากประสบความสำเร็จอย่างงดงาม  จึงมีการจัดงานนี้ขึ้นทุกปี  เพื่อนำเงินรายได้สมทบทุนมูลนิธิจุฬาภรณ์

ไม่ใช่แค่หน่วยงานเดียวที่พระองค์ทรงก่อตั้ง แต่ยังมีมูลนิธิ หน่วยงาน และโครงการในพระอุปถัมภ์ มากมายภายใต้การดูแลของพระองค์ เช่น มูลนิธิจุฬาภรณ์ มูลนิธิเทียนส่องใจเพื่อคนไข้โรคลมชัก มูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน มูลนิธิรักษาพยาบาลสัตว์ป่วยอนาถา โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โครงการรักษาผู้ป่วยโรคลมชักครบวงจร โครงการหารายได้เพื่อสัตว์ป่วยอนาถา โรงเรียนมัธยมทับทิมสยาม ๐๔ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ โรงเรียนมัธยมศึกษาจุฬาภรณ์ สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย  สมาคมเคมีแห่งประเทศไทย และกองทุนจุฬาภรณอุดรธานี

ผลของการทรงงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทรงได้รับการยกย่องในแวดวงวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมนานาชาติ คณะกรรมการรางวัลฮอลแลนเดอร์มีมติเอกฉันท์ให้เป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้มีผลงานดีเด่นของโลกในสาขาสารเคมีก่อมะเร็งและพิษ วิทยาสิ่งแวดล้อม ในปีพ.ศ. 2547 สหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโลก (IUCN The World Conservation Union) สวิตเซอร์แลนด์ ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโลก และทรงเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับรางวัลEMS Hollaender International Award อีกด้วย

เมื่อดูจากรายชื่อหน่วยงานและขอบข่ายการทำงาน จะเห็นว่าเจ้าฟ้านักวิทยาศาสตร์ทรงสนพระทัยทั้งศาสตร์และศิลป์  นอกเหนือจากได้รับปริญญาด้านวิทยาศาสตร์แล้ว ยังทรงศึกษาระดับปริญญาเอก หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาทัศนศิลป์ คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 

ยังจำได้ว่าพระองค์มีพระสุรเสียงอันไพเราะจนขับร้องเพลงบันทึกเทปบ่อยหน รวมทั้งสนพระทัยเล่นดนตรีจีนที่เรียกว่า “กู่เจิ้ง”  แม้ว่าพระองค์จะห่างการทรงงานด้านศิลปะไป  แต่ภาพจำขณะที่ทรงขับร้องและทรงดนตรียังแจ่มชัดในหัวใจคนไทยเสมอ

แม้ว่าพระองค์จะทรงประชวรด้วยโรคภูมิแพ้ตัวเองและมีพลานามัยไม่แข็งแรงนัก เพราะทรงเป็นทั้งตับอ่อนอักเสบ  รวมทั้งเนื้องอกที่พระศอและลำไส้ใหญ่  แต่มุ่งมั่นจะเสด็จดำเนินตามรอยพระบาทพระบรมราชชนกอย่างไม่ย่อท้อ แม้กระทั่งในงานพระบรมศพ ที่พสกนิการชาวไทยหลั่งไหลเข้าไปถวายความรักความอาลัยต่อมหาราชผู้เป็นที่รักอย่างล้นหลาม พระองค์เสด็จออกมาทำอาหารเลี้ยงประชาชนด้วยพระองค์เอง ทั้งที่พระพลานามัยไม่สมบูรณ์นัก  ทำให้ทุกคนที่ได้เห็นการทรงงานน้ำตาไหลด้วยความปิติอย่างยิ่ง ได้แต่ถวายพระพรให้พระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง 

นอกจากสนพระทัยด้านศาสตร์และศิลป์ ยังทรงศึกษาธรรมะกับพระเกจิอาจารย์หลายท่าน  โดยเฉพาะหลวงตามหาบัว ซึ่งทรงเป็นลูกศิษย์หลวงตามานานถึง 15 ปี  พระองค์รับสั่งเสมอว่าการปฎิบัติธรรมในชีวิตประจำวันจะทรงนั่งสมาธิ เพื่อให้จิตนิ่งก่อให้เกิดสติและปัญญา  หากวันเสาร์-อาทิตย์ที่ทรงว่าง จะเสด็จไปทรงปฏิบัติธรรมที่วัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานี

เจ้าหญิงนักวิทยาศาสตร์รับสั่งเสมอว่าพลังใจของพระองค์คือ พระราชบิดา พระราชมารดา และหลวงตามหาบัวฯ  เพราะทั้งสองพระองค์ทรงงานหนักเพื่อประชาชนมาโดยตลอด แม้ทั้งสองพระองค์จะไม่ได้บังคับ แต่ทรงรู้สึกเป็นหน้าที่ของพระองค์ที่จะทรงสืบทอดการปฏิบัติงานแทน เพราะพระราชบิดารับสั่งเสมอว่า พวกเราอยู่ได้ก็เพราะประชาชน ต้องทำทุกอย่างเพื่อประชาชนคนไทย. ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พสกนิกรต่างถวายความรักให้เจ้าหญิงนักวิทยาศาสตร์อย่างเต็มหัวใจ  

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติของพระองค์ ทีมงานเพจราวด์เทเบิลไทยแลนด์ขอถวายพระพรให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญ พระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง มีพระชันษายิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญชาวไทยตราบนานเท่านาน

                                                ถักร้อยมวลดอกไม้ให้พระองค์

ธ ประสงค์สิ่งใดให้ดั่งถวิล

จำเริญกาลผ่านฟ้ามาสู่ดิน

ไทยทุกถิ่นอวยชัยถวายพระพร

                                    ……………………………………………………….

ผู้เขียน ป้าทีเร็กซ์

.

You may also like

About Us

สื่อที่มุ่งเน้นข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ เป็นกลาง เพื่อให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ

@2022 – All Right Reserved. Designed and Developed byu00a0PenciDesign